Dec-2018
HOSHI JAPANESE RESTAURANT
หลังจากกุ้งมีลงรีวิวไป ว่ากุ้งไปชมโชว์แล่ปลามากุโระ (ทูน่าบลูฟิน) โดย #ชมฟรี #ไม่ต้องไปดูถึงญี่ปุ่น ของร้าน HOSHI JAPANESE RESTAURANT ซึ่งเค้าจะจัดอีกครั้งในวันที่ 8 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ค่ะ ณ ร้าน Hoshi สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 วันนี้กุ้งเลยขอมารีวิวอาหารให้ชมกันบ้างค่ะ เพราะเอาจริง กุ้งไปทานร้านโฮชิบ่อยมาก เพราะสดอร่อยและใกล้บ้าน แต่ไม่เคยรีวิวถึงเลย วันนี้เลยขอมารีวิวให้ชมกันละกันนะคะ ว่าเค้าไม่ได้มีดีแค่โชว์แล่ปลาเด้ออออ
หมายเหตุ : ท่านใดที่สนใจชมคลิปโชว์แล่ปลาที่กุ้งไปดูมา ขอเชิญที่ลิงก์นี้ค่ะ https://www.facebook.com/1505480339722767/posts/2209696532634474/ โดยตัวที่กุ้งชม สนนราคาตัวละเกินครึ่งล้านเลยนะคะ ไม่เสียค่าชมใดๆ แค่ไปสั่งอาหารทานตามปกติ แต่อย่าลืมโทรไปจองที่ก่อนเน้อ 02- 212-4340
ว่าแล้วมารีวิวเลยน้า
1. Shogun Combo : จัดมาสวยงาม เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปอาหารอย่างกุ้งมากค่ะ
– ประกอบด้วยปลาแซลมอนแล่บาง Salmon Usuzukuri ที่สดอร่อย
– ซาซิมิฮามาจิ ที่สดมากเช่นกัน
– ซูชิปลาไหล ปลาไหลทำได้โอเค ไม่คาว ไม่มีก้างติดมาให้กวนใจ ซอสอร่อย
– ซูชิแซลมอน แซลมอนลด ลายสวย ชิ้นยาวและหนา ทานแล้วฟินมาก
– ซูชิแซลมอนเบิร์น อร่อยดีงามไม่แพ้กัน
– ปลาแซลมอนโรล เป็นโรลที่โปะหน้าด้วยแซลมอนเบิร์น ราดน้ำซอส และมีหนังปลากรอบตกแต่งด้านบนอีกที เวลาเคี้ยวก็จะมีความกรุบกรอบของหนังปลาแทรกมาด้วย
2. มันปูย่างเตาถ่าน (Kani Miso)
– เป็นอีกเมนูขึ้นชื่อของร้านค่ะ ทำจากมันปูคลุกเนื้อปูและมิโซะ โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง เสิร์ฟมาบนเตาถ่านอุ่นๆ เมนูนี้กุ้งชอบมากกก เค็มๆ มันๆหอมๆ
3. Foie Gras Sushi
– เป็นซูชิที่ท็อปหน้าด้วยฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ อร่อยมาก ฟัวกราส์ที่นี่คือดีงาม ใช้ฟัวกราส์ของดี ไม่ใช่แบบถูกๆ เนื้อจึงไม่แหยะและไม่เหม็น
4. ข้าวหน้าฟัวกราส์ (Foie Gras Don)
– กินซูชิฟัวกราส์แล้วไม่สะใจ เลยสั่งข้าวหน้าฟัวกราส์มาทานด้วยค่ะ เป็นข้าวที่มีซอสสูตรพิเศษของทางร้านใส่มาด้วยนะ ใครชอบฟัวกราส์เป็นอีกจานที่แนะนำให้ลองค่ะ
5. ปลาเงินทอด (Shirauo Karaage)
– ปลาเงินตัวเล็กทอดกรอบ กรอบแบบละมุนๆ เค็มนิดๆ กินเพลิน ไม่เหม็นหืนน้ำมัน เสริมแคลเซียมดีเลยค่ะ
6. หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ้ว (Salmon Kabu Toni)
– อีกเมนูเด็ดของร้าน เป็นหัวปลาแซลมอน ซึ่งเป็นส่วนที่มีมันค่อนข้างมาก เมื่อนำมาต้มในน้ำซอสแบบเข้าเนื้อจึงได้รสชาติที่กลมกล่อม เมนูนี้มีเพื่อนแนะนำให้ลองชิมที่คางของแซลมอนซึ่งจะเป็นส่วนที่มีเนื้ออร่อยมากด้วย ซึ่งก็อร่อยดีค่ะ
7. สลัดแซลมอนกับอโวคาโด
– สายสุขภาพน่าจะชอบ เป็นสลัดน้ำโชยุ เสิร์ฟกับแซลมอนชิ้นใหญ่ (ปกติการตัดแบบชิ้นเล็กจะมีลายที่สวยกว่าการตัดแบบชิ้นใหญ่จากมุมของการตัดเนื้อปลา ดังนั้นถ้าดูลายของร้านนี้อาจจะไม่สวยเท่าที่อื่นแต่ได้แซลมอนชิ้นใหญ่เต็มคำแน่นอน) จานนี้ของเพื่อนค่ะ กุ้งไม่ได้ชิม แต่ถ่ายรูปมาด้วย
8. เส้นอินานิวะ ปลาคิเมะไดกับไข่ออนเซ็น (Inaniwa Onsen)
– เป็น 1 ในเมนูที่กุ้งชอบค่ะ หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาน้า เป็นเส้นอินานิวะนุ่มๆ ลื่นคอ มีไข่ออนเซน ปลาคิเมะไดดิบ และไข่แซลมอนโรยหน้า รสชาติน้ำซุปกลมกล่อมมาก อันนี้เค้าจะทานแบบเย็นๆนะ จึงสดชื่นลื่นคอฝุดๆ และร้านเค้าคือใส่ใจ วางถ้วยมาบนน้ำแข็งเลย ทำให้รักษาความเย็นความอร่อยได้นาน
9. หางปลาทูน่าต้มซีอิ้ว
– เป็นส่วนหน้าที่เนื้อทูน่าจะแน่น และมีเอ็นมากหน่อย นำไปต้มในซีอิ้วจนเข้าเนื้อ ตอนคีบเนื้อทานจะเห็นส่วนที่ติดหนังนี่แบบคอลลาเจนมากๆ ทางร้านแจ้งว่าเป็นเมนูที่หาทานยากเหมือนกันค่ะ
ต่อไปเป็นเมนูของหวานกันน้า มากัน 5 ผู้ใหญ่ + 1 เด็ก สั่งขนมไป 4 เมนู อร่อยทั้ง 4 เมนูเลยค่ะ
1. บารามาเจะ (Blancmange) : เนื้อขนมออกลื่นๆ (ถ้าให้นึกภาพก็คล้ายๆ เต้าฮวย) เวลาทานก็ราดซอสน้ำตาลแดง กับถั่วเหลืองป่น เพราะกุ้งชอบทานขนมตระกูลนี้อยู่แล้ว ชอบค่ะ
2. โมจิหยดน้ำ (Yamanachi Mochi) : คล้ายๆ วุ้น ราดซอสน้ำตาลแดง กับถั่วเหลืองป่นเช่นกัน ทานแล้วสดชื่น
3. ไดฟุกุชาเขียว (Matcha Daifuku) กับ 4. ไดฟุกุถั่วแดง (Strawberry Daifuku) : ทางร้านหั่นแบ่งมาให้เรียบร้อย ทานง่ายเลยค่ะ เป็นไดฟุกุไส้สตอว์เบอรรี่ลูกโต รสหวานของไดฟุกุ ตัดกับความหอมและเปรี้ยวของสตอเบอรี่สดได้ดี
=========
สุดท้าย กุ้งขอทิ้งทวนเรื่องโชว์แล่ปลาทูน่า + เมนูทูน่าที่กุ้งทานนิดนึงน้าค้า เผื่อใครสนใจ
* เฉลี่ยจัดเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งอย่างที่บอกว่ารอบหน้าคือวันที่ 8 ธ.ค.61 ถ้าใครสนใจอย่าลืมจองโต๊ะไปก่อนนะคะ วันที่มีโชว์คนจะจองมาเยอะจริงๆ เพราะนอกจากจะชมโชว์ฟรีแล้ว ยังสามารถเลือกสั่งชิ้นส่วนของทูน่ามาทานและปรุงตามที่ต้องการได้เลย #อันนี้ดีจริง!!! แถมรับประกันสดแท้แน่นอน
• ทางร้านมีเชฟที่เรียนการแล่ปลาจากซึกิจิที่ญี่ปุ่นโดยตรง และมีดที่ใช้ก็เป็นมีดพิเศษที่ต้องสั่งทำจากทางญี่ปุ่นเช่นกัน
• ที่ร้านใช้ปลามากุโระ ซึ่งเป็นทูน่า แบบ Blue fin ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ราคาสูงกว่า Yellow fin แต่รสชาติก็ดีกว่าเช่นกันค่ะ
• ราคาเฉลี่ย (ขาย) กิโลกรัมละ 6 พันบาท (ราคาแล้วแต่วันแล้วแต่ตัวและแล้วแต่โปรโมชั่นด้วยค่ะ) โดยหากต้องการเนื้อส่วนไหน สามารถเลือก, ชั่งน้ำหนัก, และให้เชฟปรุงเมนูได้ตามต้องการ (ให้เชฟแนะนำได้ค่ะ)
• วันที่กุ้งไปชม ปลาที่นำมาโชว์หนัก 98 กิโลกรัม คิดค่าตัวน้องปลาแล้ว ก็เกือบหกแสนอะค่ะ
• ขณะที่แล่ปลาก็จะมีการอธิบายถึงชิ้นส่วนต่างๆ ที่แล่ ว่าชื่ออะไร มีรสชาติหรือความเด่นที่ตรงไหน ทำให้เราเข้าใจชื่อเรียกส่วนต่างๆ ของปลาได้ดีขึ้น เวลาสั่งก็จะได้เมนูที่ตรงกับความชอบได้มากขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งอย่างที่บอกคือหลายส่วนกุ้งเกิดมาในชีวิตไม่เคยได้ยินและไม่เคยชิมเลย (รู้จักแค่โอโทโร่อะไรงี้)
• ได้ชิมคอลลาเจนแบบสดๆ เป็นส่วนที่อยู่ในกระดูก เนื้อใสๆ ดึ๋งๆ ปรุงโชยุมาให้ รสชาติแปลกๆ ดีค่ะ
• ซาซิมิทูน่า 3 ส่วน แบ่งเป็น ที่มีโอโทโร่ ชูโทโร่ อากามิ เนื้อโอโทโร่นั้นดีงามอย่างที่ทุกคนรู้ดี มีไขมันแทรกแบบละลายในปากเลย
• ปลายท้องทูน่าย่าง เป็นทูน่าส่วนที่ติดมันค่อนข้างมาก เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มยำแบบไทยๆ ชิมคำแรกแบบไม่จิ้มก่อนพบว่าย่างมาด้านนอกกรอบด้านในชุ่มอร่อยมาก ลองจิ้มน้ำจิ้มก็แซ่บไปอีกแบบ ถ้าใครมาแล้วมีเมนูนี้แนะนำให้ลองสั่งดูค่ะ แปลกดี ไม่เคยชิมรสแบบนี้เลย แต่ก็อร่อยดีค่ะ
?พิกัด : ร้าน HOSHI JAPANESE RESTAURANT เค้ามี 6 สาขาค่ะ แต่ถ้าใครอยากชมแล่ปลาสดๆ แบบที่ญี่ปุ่น เค้าจะมีแล่อีกครั้ง วันที่ 8 ธ.ค. สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 นะคะ สำรองที่นั่ง 02- 212-4340 // สำหรับรอบอื่น รอติดตามชมที่หน้าเพจร้านเค้าน้าาา
กุ้งลงเมนูของร้าน Hoshi ไว้ให้ชมด้วยค่ะ เผื่อท่านใดสนใจไปทาน เมนูเค้าเยอะมากเลยน้า
#กุ้งจังตะลอนกิน #BluefinTuna #HonMaguro #マグロ解体ショー #HoshiJapaneseRestaurant
ช่องทางติดต่ออื่นๆ
– Facebook Page : กุ้งจังตะลอนกิน www.facebook.com/EatLikeKungJung
– Instagram : kungjung_go_eat
– Website : www.KungJung.com
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า ??